หยุด ร่างพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

วันพฤหัสบดีที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2554

เคล็ดลับ ประหยัดพลังงาน

     สวัสดีท่านผู้อ่านนะครับ วันนี้เรามีเคล็ดลับดีๆในการประหยัดพลังงานมานำเสนอ ถ้าพร้อมแล้วเชิญอ่านได้เลยจ้า

  • ประหยัดน้ำ
          - ไม่รดน้ำตอนที่มีแดดแรงจัด เพราะน้ำจะระเหยไปอย่างรวดเร็ว
          - น้ำดื่มที่เหลือ สามารถใช้รดน้ำต้นไม้ได้ ล้างพื้นได้


  • ประหยัดน้ำมัน
          - นำสิ่งของไม่จำเป็นออกจากรถ ไม่ควรบรรทุกหนักเกินไป
          - วางแผนก่อนเดินทาง เพื่อใช้เส้นทางลัดและป้องกันการหลงทาง
             ** หากขับรถหลงทาง 10 นาที จะสิ้นเปลืองน้ำมันถึง 500 ซีซี
          - ออกรถโดยการวิ่งอย่างช้าๆทันที แทนการจอดอุ่นเครื่องอยู่กับที่
          - การติดเครื่องทิ้งไว้ 5 นาที จะทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันถึง 10 ซีซี และถ้าเปิดแอร์ด้วย จะทำให้สิ้นเปลืองเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 10
          - ปิดแอร์ก่อนถึงที่หมาย 2-3 นาที
          - หากเดินทางในเมือง ควรใช้รถสาธารณะ จะช่วยประหยัดทั้งน้ำมันและเวลา


  • ประหยัดไฟฟ้า
          - ย้ายสิ่งของที่ไม่จำเป็นออกจากห้องปรับอากาศ และไม่ควรปลูกต้นไม้
          - เปิดประตู หน้าต่าง ให้อากาศถ่ายเท ก่อนเปิดเครื่องปรับอากาศ
          - ตั้งเวลาปิดเครื่องปรับอากาศก่อนการเลิกใช้งานประมาณ 1 ชั่วโมง
          - ตั้งอุณหภูมิที่ 25 องศา ปรับอุณหภูมิเพิ่มขึ้น 1 องศา ช่วยประหยัดไฟได้ร้อยละ 10 แต่ไม่ควรตั้งเกิน 28 องศา
          - ตั้งคอมพิวเตอร์ในที่ระบายความร้อนได้ดี
          - ตั้งระบบ Screen Saver เพื่อรักษาคุณภาพหน้าจอ
          - ปิดหน้าจอเมื่อไม่ใช้งาน 15 นาที
          - ตั้งตู้เย็นให้ห่างจากผนังอย่างน้อย 15 เซนติเมตร

วันศุกร์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2554

ประกาศผลการประกวดออกแบบโปสเตอร์

     ขอโทษที่ทำให้รอสำหรับการประกาศผลรางวัลนะครับ ถึงแม้ว่ากระแสตอบรับไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ทางเราก็ขอขอบคุณที่มีคนร่วมส่งผลงานมาประกวด และนี่คือผลงานชนะเลิศครับ


     รางวัลชนะเลิศได้แก่ผลงานของคุณ  ณัฐธิดา พันธ์กลับ  ขอแสดงความยินดีด้วยครับ



     ส่วนผู้ที่ไม่ได้รับรางวัลก็ไม่ต้องเสียใจไปนะครับ ทางเราจะนำผลงานของทุกท่านไปใช้เผยแพร่ให้เกิดประโยชน์ต่อคนส่วนมากแน่นอนครับ ขอขอบคุณทุกท่านที่ร่วมสนุกนะครับ ถ้ามีโอกาสมาร่วมสนุกกันใหม่นะ วันนี้ขอลาไปก่อน สวัสดีครับ


วันเสาร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ประกวดออกแบบโปสเตอร์รณรงค์การประหยัดพลังงาน

      ประกวดออกแบบโปสเตอร์รณรงค์ประหยัดพลังงาน ชิงเงินรางวัลมูลค่า 300 บาท ถึงแม้จะน้อย (เพราะมีแค่นี้ -*-) แต่ก็อยากให้ทุกคนส่งมานะครับ ทางเราจะได้นำภาพไปใช้ในการเผยแพร่ให้เป็นประโยชน์ต่อไปในอนาคต
     กติกา 
  1. ออกแบบโปสเตอร์ภาพขนาดใดก็ได้โดยให้สื่อถึงการประหยัด หรือ ลดใช้พลังงาน หรือ พลังงานทางเลือก
  2. การตัดสินผู้ชนะ จะพิจารณาตามความสวยงาม แนวความคิด สามารถใช้ประชาสัมพันธ์ได้ ซึ่งผู้ตัดสินคือ สมาชิกกลุ่มพลังงานทางเลือก
  3. สามารถส่งผลงานเข้าประกวดได้ที่ icecosci@hotmail.com โดยระบุหัวข้อว่า "ประกวดพลังงานทางเลือก" และระบุ ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ เพื่อใช้ในการติดต่อกลับ
  4. หมดเขตส่งผลงานในวันที่ 3 มีนาคม
  5. ประกาศผลทาง http://alternative-eng.blogspot.com

วันอาทิตย์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ตัวอย่างพลังงานทางเลือก (ต่อ)

  •  พลังน้ำ พลังน้ำเป็นพลังงานที่สะอาด ไม่ปล่อยก๊าซพิษออกมา ใช้ปั่นไฟได้โดยการปล่อยน้ำให้ไหลผ่านกังหัน ทำให้กังหันหมุน และผลิตเป็นไฟฟ้า แบบเดียวกับที่เราขี่จักรยาน แล้วปั่นหมุนไดนาโมซึ่งติดอยู่ที่วงล้อจักรยาน เราจึงเปิดไฟหน้ารถได้ พลังน้ำมีข้อดีคือเปิดปุ๊บติดปั๊บ ปล่อยน้ำไหลไปหมุนกังหันเมื่อใด ก็จะได้พลังงานออกมาทันที ผิดกับพวกโรงไฟฟ้าแบบใช้เชื้อเพลิงมาเผาให้ได้ความร้อน ซึ่งต้องรอจนเครื่องเข้าที่ จึงจะผลิตไฟฟ้าได้ โรงไฟฟ้าพลังน้ำจึงเหมาะสำหรับกรณีที่ต้องการไฟทันทีและเร่งด่วน จึงมักใช้ปั่นไฟตั้งแต่หลังเที่ยงวันจนถึงเที่ยงคืน ซึ่งเป็นช่วงที่ประชาชนและโรงงานต้องการใช้ไฟฟ้ามากที่สุด
    ส่วนเวลาดึกๆ จนถึงเช้าคนใช้ไฟลดลง แต่โรงไฟฟ้าที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล (เช่น ถ่านหิน ก๊าซธรรมชาติ น้ำมัน) หยุดไม่ได้ เพราะถ้าหยุด กว่าจะปั่นไฟได้อีกต้องใช้เวลาอีกนาน ผู้ผลิตไฟฟ้าจึงไม่หยุดโรงไฟฟ้า ช่วงนี้จึงมีไฟฟ้าเหลือใช้ นักจัดการด้านไฟฟ้าจึงเอาไฟฟ้าที่เหลือนี้ไปสูบน้ำกลับขึ้นไปเก็บไว้บนอ่างเก็บน้ำของเขื่อน พอปริมาณต้องการใช้ไฟสูงขึ้นในช่วงหลังเที่ยงวันจนถึงดึกก็ปล่อยน้ำจากอ่างมาปั่นไฟใหม่ วิธีนี้เรียกว่าการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำแบบสูบกลับ ปัจจุบันเมืองไทยมีใช้แล้ว เช่น ที่เขื่อนศรีนครินทร์ และเขื่อนภูมิพล
    ข้อดีของพลังน้ำ คือ เป็นพลังงานหมุนเวียนที่ใช้แล้วไม่หมด น้ำนี้เมื่อใช้ปั่นไฟแล้วยังเอาไปใช้ในการเกษตรได้ และเมื่อระเหยกลายเป็นไอ ก็รวมตัวกันเป็นเมฆ และกลายเป็นฝนตกกลับลงมาเป็นน้ำในเขื่อน ให้ใช้ปั่นไฟได้อีก
    ข้อเสียคือ ในการสร้างเขื่อนเก็บกักน้ำเพื่อปั่นไฟนั้น มักสูญเสียพื้นที่ป่าไม้ ซึ่งนับวันจะร่อยหรอลงไปทุกที และทำให้สัตว์ป่าต้องอพยพหนีน้ำท่วม บางชนิดอาจสูญพันธุ์ไปจากโลกก็ได้ รวมทั้งชีวิตความเป็นอยู่ของคนท้องถิ่นก็ต้องเปลี่ยนไปจากเดิมด้วย
เขื่อน

  • แสงอาทิตย์ เวลาเรายืนตากแดดจะรู้สึกร้อน นั่นเป็นเพราะเราได้รับพลังงานที่ดวงอาทิตย์แผ่รังสีมายังโลกพลังงานแสงอาทิตย์นี้ต้นไม้สามารถนำมาสังเคราะห์แสง แล้วทำให้ต้นไม้โตได้ รวมทั้งผลิตพลังงานได้ด้วย ส่วนคนก็สามารถเอาพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้โดยเปลี่ยนรูปเป็นพลังงานความร้อน หรือใช้เซลล์แสงอาทิตย์มาผลิตไฟฟ้าได้โดยตรง วิธีหลังนี้สะดวกดีสำหรับชนบทห่างไกลเพราะไม่ต้องปักเสาพาดสายไฟเข้าไป สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายด้านสายส่ง จึงคุ้มทุนกว่า แม้ตัวระบบผลิตไฟฟ้าด้วยเซลล์แสงอาทิตย์จะค่อนข้างแพงก็ตาม
    รัฐบาลเองก็มีโครงการผลิตไฟฟ้าประจำหมู่บ้านที่อยู่ห่างไกล โดยชาร์จไฟตอนกลางวันเก็บไว้ในแบตเตอรี่ และเอาแบตเตอรี่ที่บรรจุไฟไว้มาใช้ในตอนกลางคืน หรือเอาไปใช้สูบน้ำจากห้วยขึ้นถังสูง เป็นต้น
โซลาร์เซลล์
  • ลม เมื่อเอาแรงลมมาใช้หมุนกังหันไฟฟ้า ก็จะสามารถผลิตไฟฟ้าได้ ข้อเสียของวิธีนี้คือ ต้องใช้ลมแรงมาก จึงจะผลิตไฟได้มากพอและคุ้มทุน และลมต้องมีตลอดเวลาหรือเกือบตลอดเวลา เพราะถ้าไม่มีลมก็ไม่มีไฟ เมื่อไม่มีไฟก็ทำงานไม่ได้ งานก็ไม่ต่อเนื่อง จะให้เจ้าของโรงงานทำงานแบบทำบ้างหยุดบ้าง เขาคงไม่ทำแน่ พลังงานลมจึงใช้กันค่อนข้างน้อยในยุคปัจจุบันนี้
กังหันลม

  • พลังงานนิวเคลียร์ ในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ญี่ปุ่นต้องยอมแพ้เพราะระเบิดปรมาณูเพียงสองลูก ระเบิดสองลูกนี้มีอำนาจเผาผลาญรุนแรง ทั้งๆที่เป็นระเบิดลูกไม่ใหญ่โตนัก ที่เป็นเช่นนี้เพราะแรงระเบิดที่ให้ความร้อนมหาศาลนั้น เกิดจากปฏิกิริยาแตกตัวแบบนิวเคลียร์ ของธาตุบางอย่างในระดับอณูหรือปรมาณู เช่น ธาตุยูเรเนียม จึงเรียกว่า ระเบิดนิวเคลียร์ หรือ ระเบิดปรมาณู
    ในสมัยหลังสงคราม นักวิทยาศาสตร์ได้นำความรู้ด้านพลังงานนิวเคลียร์นี้มาใช้ในเชิงสร้างสรรค์คือ เอามาผลิตความร้อน เพื่อผลิตไฟฟ้าต่ออีกที โดยใช้แท่งเชื้อเพลิงขนาดเล็กนิดเดียว เรียกว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับปริมาณไม้หรือถ่านหินที่ต้องใช้ในการผลิตไฟฟ้าปริมาณเท่ากัน เราเรียกโรงไฟฟ้าแบบนี้ว่า โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ หรือ โรงไฟฟ้าปรมาณู โรงไฟฟ้าแบบนี้ไม่ทำให้พื้นที่ป่าสูญเสียไป ไม่มีก๊าซเรือนกระจกออกมา แต่มีปัญหาที่อาจมีรังสีรั่วไหลออกมาได้ และรังสีนี้อันตรายมาก ทำให้คนเป็นมะเร็ง ลูกออกมาอาจมีรูปร่างผิดปกติหรือกลายพันธุ์ อีกทั้งรังสีที่ว่านี้ยังไม่สลายตัวง่ายๆ จะอยู่เป็นอันตรายอย่างนี้ไปอีกนับพันๆ ปี
เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์

วันอังคารที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ตัวอย่างพลังงานทางเลือก

     เอาล่ะครับ วันนี้เรามารู้จักกับพลังงานทางเลือกชนิดต่างๆกันดีกว่า พลังงานทางเลือกที่สามารถนำมาใช้ทดแทนพลังงานหลักได้มีมากมายหลายประเภท เช่น

  • ก๊าซธรรมชาติ ก๊าซธรรมชาติมีสารไฮโดรคาร์บอนเป็นส่วนใหญ่เช่นเดียวกันกับน้ำมันดิบ เพราะเกิดจากการทับถมแปรสภาพ ของซากสัตว์ซากพืชเป็นล้านๆ ปีมาเหมือนกัน มีก๊าซไนโตรเจนคาร์บอนไดออกไซด์รวมทั้ง ก๊าซไข่เน่า ปนอยู่ด้วย ก๊าซไข่เน่ามีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า ก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟด์(ซัลเฟอร์คือกำมะถัน) นอกจากเหม็นมากเหมือนไข่เน่าแล้ว ยังเป็นพิษอีกด้วยปกติแล้ว เมื่อเอาก๊าซธรรมชาติมาเผา จะเผาได้ค่อนข้างสมบูรณ์ ไม่ค่อยมีก๊าซพิษออกมานัก จึถือว่าเป็นเชื้อเพลงที่ค่อนข้างสะอาด รถประจำทางของขสมก.จึงได้เอาก๊าซนี้มาใช้ และโฆษณาว่าเป็นรถปลอดมลพิษ
    อุตสาหกรรมก๊าซธรรมชาติ

    รถ NGV ของ ขสมก.

    • ถ่านหิน ถ่านหินเป็นหินตะกอนชนิดหนึ่ง ติดไฟได้ จึงใช้เป็นเชื้อเพลิงปั่นไฟได้ นอกจากนี้ถ่านหินยังใช้เป็นแหล่งพลังงานในโรงงานใหญ่ๆ เช่น โรงงานปูนซีเมนต์ โรงงานกระดาษ โรงงานผงชูรส เป็นต้นเพราะหาได้ง่ายและราคาไม่แพง แต่การเอาถ่านหินมาเผา จะได้ก๊าซพิษออกมาด้วย จึงต้องเลือกถ่านหินคุณภาพดี (มีกำมะถันต่ำ) หรือไม่ก็ต้องมีวิธีลดสารพิษออกจากถ่านหินก่อนส่งไปเผา หรือไม่เช่นนั้นต้องมีอุปกรณ์หรือเครื่องจับก๊าซพิษไว้

         บ้านเราไม่ค่อยมีถ่านหิน เท่าที่มีอยู่เป็นถ่านหินคุณภาพต่ำ เราจึงต้องสั่งถ่านหินคุณภาพสูงมาจากต่างประเทศ และวิธีที่จะขนส่งถ่านหินเข้ามาด้วยราคาที่ถูกที่สุด ก็คือต้องขนมาทางเรือ ดังนั้นโรงไฟฟ้าที่ใช้ถ่านหินจึงมักอยู่ริมทะเล หรือริมแม่น้ำที่อยู่ติดกับทะเล
    ถ่านหิน
    •  ชีวมวล  ชื่อนี้ฟังดูเป็นวิทยาศาสตร์และชวนให้เข้าใจยาก แต่จริงๆแล้ว เชื้อเพลิงชีวมวลก็คือเชื้อเพลิงที่มาจากชีวะ หรือสิ่งมีชีวิตนั่นเอง เช่น ไม้ฟืน แกลบ กากอ้อย เศษไม้ เศษหญ้า เศษเหลือทิ้งจากการเกษตร สิ่งเหล่านี้ใช้เผาให้ความร้อนได้ทั้งนั้น และความร้อนนี้แหละที่เอาไปปั่นไฟได้ นอกจากนี้ยังรวมถึงมูลสัตว์และของเสียจากโรงงานแปรรูปทางเกษตร เช่น เปลือกสับปะรดจากโรงงานสับปะรดกระป๋อง หรือน้ำเสียจากโรงงานแป้งมัน ที่เอามาหมักและผลิตเป็นก๊าซชีวภาพ  ข้อเสียของเชื้อเพลิงชีวมวล คือ แม้จะใช้เยอะแต่ได้พลังงานนิดเดียว ถ้าจะเอาไม้มาเป็นเชื้อเพลิงปั่นไฟ ก็ต้องใช้ป่าเป็นบริเวณหลายหมื่นหลายแสนไร่ จึงไม่เหมาะกับการผลิตไฟฟ้าเยอะๆ แต่เหมาะกับการใช้ในครัวเรือนและในชนบทห่างไกลมากกว่า
    พืชชีวมวล

      วันเสาร์ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2554

      พลังงาน คือ อะไร ????

           พลังงาน เกิดจากคำ 2 คำที่ผสมกันคือ พลัง และ งาน หมายถึง พลังต่างๆที่นำมาใช้ให้เกิดงาน เช่น น้ำมันทำให้รถวิ่ง ถ่านหินใช้ผลิตไฟฟ้า สำหรับการแบ่งพลังงานนั้น สามารถแบ่งได้ 2 ประเภทคือ

      1. พลังงานใช้แล้วหมดไป  หรือ พลังงานสิ้นเปลือง หรือ พลังงานฟอสซิล
        ได้แก่ น้ำมัน รวมทั้งหินน้ำมัน ทรายน้ำมัน ถ่านหิน และก๊าซธรรมชาติ ที่เรียกว่าใช้แล้วหมดก็เพราะหามาทดแทนไม่ทันการใช้ พลังงานพวกนี้ปกติแล้วจะอยู่ใต้ดิน ถ้าไม่ขุดขึ้นมาใช้ตอนนี้ ก็เก็บไว้ให้ลูกหลานใช้ได้ในอนาคต บางทีจึงเรียกว่าพลังงานสำรอง
      2. พลังงานใช้ไม่หมด หรือ พลังงานหมุนเวียน ได้แก่ ไม้ กระดาษ ฟืน แกลบ กาก(ชาน)อ้อย    ชีวมวล (เช่น มูลสัตว์ และก๊าซชีวภาพ) น้ำ(จากเขื่อนไหลมาหมุนกังหันปั่นไฟ) แสงอาทิตย์ (ใช้เซลล์แสงอาทิตย์ผลิตไฟฟ้าได้) ลม (หมุนกังหันลมผลิตไฟฟ้า) และคลื่น (กระแทกให้กังหันหมุนปั่นไฟ) และที่ว่าใช้ไม่หมดก็เพราะสามารถหามาทดแทนได้ เช่น ปลูกป่าเอาไม้มาทำฟืน หรือปล่อยน้ำจากเขื่อนมาปั่นไฟ แล้วไหลลงทะเล กลายเป็นไอ และเป็นฝนตกลงมาสู่โลกอีก หรือแสงอาทิตย์ที่ได้รับจากดวงอาทิตย์อย่างไม่มีวันหมดสิ้น ดังนี้เป็นต้น

           แล้วพลังงานทางเลือก คืออะไร ???  พลังงานทางเลือก ก็คือพลังงานที่ไม่ใช่พลังงานหลัก แต่คนส่วนใหญ่ยังให้ความสนใจน้อยอยู่ มีการนิยมใช้น้อย ภาครัฐให้การสนับสนุนน้อย คงเพราะเป็นเรื่องที่ใหม่และดูจะไกลตัว ถึงแม้ว่าน้ำมันจะแพง แต่คนที่มีรถก็สามารถจ่ายค่าน้ำมันได้เหมือนกับว่าน้ำมันมีราคาเท่ากับ 10 กว่าปีก่อน  ด้วยเหตุนี้จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ราคาสินค้า บริการต่างๆทั่วโลกปรับตัวสูงขึ้น สาเหตุหลักมากจากพลังงานหลักที่ค่อยๆหมดไปนั่นเอง ในสถานการณ์เช่นนี้ควรมีการหันมาให้ความสำคัญกับพลังงานทางเลือกมากขึ้น เพราะการรอให้พลังงานหลักหมดลง แล้วค่อยหันมาใช้พลังงานทางเลือก ก็จะเข้าเค้ากับคำว่า "มีของดีอยู่กับตัวแล้วไม่ใช้"

          

        วันศุกร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2554

        ทำไมจึงต้องใช้พลังงานทางเลือก

             ในปัจจุบันคงเป็นที่ทราบกันดีว่าพลังงานต่างๆที่อยู่ในโลกของเรา ค่อยๆลดลงไปอย่างเห็นได้ชัด สังเกตได้จากราคาสินค้าและบริการต่างๆมีการปรับตัวที่สูงขึ้น โดยเฉพาะน้ำมัน กล่าวคือ ความต้องการน้ำมันดีเซลเป็นปริมาณ 9,928 ล้านลิตร ในปี พ.ศ. 2533 และเพิ่มเป็น 18,273 ล้านลิตร ในปี พ.ศ. 2547 หรือเพิ่มขึ้นด้วยอัตราเฉลี่ยร้อยละ 4.5 ต่อปี  
             
             จากการที่มีประชากรเพิ่มขึ้น ความต้องการใช้พลังงานจึงเพิ่มขึ้นตามไปด้วย แต่ทรัพยากรธรรมชาติไม่ได้เพิ่มขึ้นตามจำนวนประชากร ดังนั้นการที่เราใช้ทรัพยากรใดทรัพยากรหนึ่งเป็นเวลานาน สักวันก็คงจะหมดไป ถ้าเราไม่คิดหาทางป้องกัน สักวันหนึ่งลูกหลานของเราอาจไม่มีอะไรให้ใช้เลยก็เป็นได้

             เราจึงขอเป็นส่วนหนึ่ง ในการจุดประกายทางความคิด โดยหวังว่าทุกๆคนจะมีการปรับเปลี่ยนทัศนคติในเรื่องการใช้พลังงาน และหวังว่าทุกๆคนคงมีความคิดในเรื่องของวิกฤตพลังงานว่าเป็นเรื่องใกล้ตัว ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป